การตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจประกันภัย

Mask-Group-70
Mask-Group-71

การตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจประกันภัย

ในปัจจุบันยุคที่การตลาดออนไลน์นั้นสำคัญต่อธุรกิจต่างๆเป็นอย่างมาก เพราะเนื่องจากการปรับเปลี่ยนของยุคสมัย การเข้าถึงลูกค้าในรูปแบบปกติจึงไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับการทำธุรกิจ ดังนั้นการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจประกันภัย จึงสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งภาพลักษณ์และการเข้าถึงเป็นอย่างมาก แล้วมันมีวิธีการทำการตลาดอย่างไร เรามาศึกษาไปพร้อมกันเลย

วิธีทำการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจประกันภัย

ezgif-4-f032bc447175

1.ภาพลักษณ์และตัวตนของแบรนด์ทำออกมาให้ชัดเจนที่สุด

การทำธุรกิจประกันภัยนั้น หัวใจหลักของธุรกิจคงหนีไม่พ้นเรื่องความน่าเชื่อถือของบริษัท ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์และการตัดสินใจเลือกทำประกันกับบริษัทนั้นๆ โดยทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับความชัดเจนในแบรนด์และภาพลักษณ์ของบริษัทที่สื่อสารออกมา

vertical products
onpage_th3

2. ทำ Content ที่มีประโยชน์นอกเหนือจากข้อมูลประกันชีวิต

ควรทำ Content ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสุขภาพหรืออาจสื่อสารออกมาเป็นไลฟ์สไตล์ แล้วค่อยปิดท้ายด้วยการเชื่อมโยงถึงประกันชีวิต เช่น สุขภาพที่ดีต้องดูแลอย่างไร เมื่อซื้อประกันชีวิตไปแล้วไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไร ความรู้สึกที่ได้รับการคุ้มครองนั้นดียังไง ความปลอดภัยทางใจที่ทำให้เรากล้าที่จะใช้ชีวิตมากขึ้น เป็นต้น เพียงเท่านี้ลูกค้าก็อยากจะติดตามคุณเพราะข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์และหลากหลาย ไม่ใช่เน้นแต่จะขายประกันเพียงอย่างเดียว โดยคุณสามารถทำ Content ออกมาในรูปแบบต่างๆตามความเหมาะสม เช่น วิดีโอ บทความ หรือสื่อโฆษณาต่างๆ เป็นต้น

3. สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์หลากหลายช่องทาง

แพลตฟอร์มแต่ละแบบบนโลกออนไลน์นั้นมีความโดดเด่นและแตกต่างกันอย่างเป็นเอกลักษณ์ เราจึงต้องพยายามสร้างช่องทางบนโลกออนไลน์ให้ได้มากที่สุด เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแบรนด์และธุรกิจประกันภัยของเราให้ได้มากเท่าที่จะเป็นไปได้ นอกจากนี้รูปแบบของแพลตฟอร์มยังเกี่ยวข้องกับ Content ที่กล่าวมาข้างต้นอีกด้วยการมีแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ทำให้เราสามารถนำเสนอ content ที่หลากหลายร่วมด้วย โดยแพลตฟอร์มที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน ได้แก่ Facebook, YouTube, Instagram Line Official และ Website

SEO-Strategy1

Google Analytics และ Facebook Insights เครื่องมือที่ช่วยเพิ่มยอดขายธุรกิจประกันภัย

googlelogo_color_160x56dp

1.Google Analytics

ถ้าบริษัทประกันของคุณจะทำโฆษณาสักชิ้นแล้วล่ะก็ แน่นอนว่าคุณคงอยากทำโฆษณาที่สามารถเจาะจงกลุ่มลูกค้าของคุณโดยตรงเพื่อให้โฆษณาที่คุณจ่ายเงินไปนั้นมีประสิทธิภาพสูงสุด เครื่องมือที่จะช่วยคุณในด้านนี้คือ Google Analytics เครื่องมือนี้เป็นเครื่องมือของ Google ที่สามารถเก็บข้อมูลทางสถิติของผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่บริษัทประกันสร้างไว้ ได้แก่ จำนวนผู้เข้าชม เพศ อายุ ประเทศ และความสนใจ เป็นต้น

2.Facebook Insight

ถ้า Google มี Google analytics แล้วล่ะก็ Facebook ก็มี Facebook Insight ที่ทำหน้าที่คล้ายกัน โดยเครื่องมือนี้จะทำหน้าที่เฉพาะบน Facebook โดยอิงกับฟีเจอร์ต่างๆที่ Facebook มี เช่น จำนวนโพสต์ จำนวนคนเห็นโพสต์ การตอบสนองต่อโพสต์ ยอด Like, share, comment รวมไปถึงข้อมูลของผู้เข้าชม เช่น เพศ และ อายุ ประโยชน์ของเครื่องมือคือ หากบริษัทประกันต้องการทำโฆษณาที่เจาะจงกลุ่มเป้าหมายก็สามารถใช้ข้อมูลจาก Facebook insight เพื่ออ้างอิงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการและกระจายโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เราเลือก อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบผลลัพธ์ของการทำโฆษณาผ่านเครื่องมือเดียวกันนี้ได้อีกด้วย
TBS-OS-Cartoon-Facebook
TBS-OS-Tourism_002

3.Hero Base

หากบริษัทประกันภัยของคุณลงโฆษณาในหลายแพลตฟอร์มแล้ว การมีเครื่องมือที่สามารถดูแลทุกแพลตฟอร์มที่คุณลงโฆษณาได้คงจะดีไม่ใช่น้อย ซึ่งเครื่องมือนั้นคือ Hero Base เครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณ ไม่ต้องไล่ดูข้อมูลทีละแพลตฟอร์ม เพราะ Hero Base ได้รวบรวมข้อมูลทุกแพลตฟอร์ฒมาเสิร์ฟให้คุณแล้ว
รวมไปถึงการมีฟีเจอร์ที่สามารถบันทึกเสียงระหว่างการสนทนาของลูกค้าและตัวแทนขาย โดยเราสามารถเข้าไปฟังการสนทนานี้ย้อนหลังได้ เพื่อดูความต้องการของลูกค้าโดยตรง จะมีข้อมูลไหนที่ดีไปกว่าเสียงโดยตรงจากลูกค้าของคุณ หากคุณได้ข้อมูลเหล่านี้มา จะสามารถช่วยให้ธุรกิจประกันของคุณรับรู้ถึงจุดแข็งและสิ่งที่ต้องกลับไปพัฒนา เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและประโยชน์ต่อธุรกิจประกันภัยของคุณ

สรุปแนวทางการพัฒนาการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจประกันภัย

การตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจประกันภัย สามารถทำได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์หรือตัวตนของเราให้เป็นเอกลักษณ์และชัดเจนมากที่สุด เพื่อให้บุคลที่รับรู้สามารถจดจำเราได้ในรูปแบบที่มีความเฉพาะเจาะจง ถ่ายถอดออกมาเป็นตัวเอง รวมไปถึงการสร้าง Content บอกเรื่องราวที่มากกว่าการให้แค่ข้อมูลการทำประกัน และยังคงต้องสร้างตัวตนบนสื่อออนไลน์ด้วยในปัจจุบัน เพราะการทำการตลาดออนไลน์ถือเป็นหนึ่งช่องทางที่ง่ายและสามารถพบเห็นได้อย่างแพร่หลายมากที่สุด โดยสามารถทำได้โดยใช้แพลตฟอร์มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Youtube, Instagram, Line Official และ Website เป็นต้น ซึ่งทั้งหลายวิธีนี้ก็ต้องใช้เครื่องมือในการเพิ่มยอดขายหรือกระตุ้นธุรกิจให้ไปในทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะทั้งด้านการเก็บสถิติข้อมูลอย่าง Google Analytic หรือการเข้าถึงข้อมูลของกลุ่มลูกค้าผ่าน Facebook Insight และ Hero Base แพลตฟอร์มในการบันทึกเสียงสนทนา เพื่อดูความต้องการของลูกค้าโดยตรง และรับฟังเสียงตอบรับจากลูกค้าได้อย่างทันที