real estate house

การตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

TBS-OS-Cartoon-1-2

ในปัจจุบันหลายธุรกิจเดินทางมาถึงทางตัน โดยเฉพาะช่วงที่ Covid – 19 กำลังระบาด ส่งผลทำให้ธุรกิจต่างๆ ต้องเจอกับวิกฤตทางเศรษฐกิจอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในบางบริษัทนั้น กลับมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า ในช่วง Covid – 19 ที่ผ่านมา โดยเน้นไปที่การทำการตลาดออนไลน์ เนื่องจากการระบาดของ Covid – 19 ส่งผลให้วิถีชีวิตของเราเปลี่ยนไป เช่น การใส่หน้ากาก ไม่ไปในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด การติดต่อทางสังคมออนไลน์มีความจำเป็นมากขึ้น ธุรกิจจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับ New normal นี้ อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วย ดังนั้นการตลาดออนไลน์จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นและเป็นเครื่องมือที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน ดังนั้นเราไปดูพร้อมกัน ว่าการทำการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีวิธีการอย่างไร

วิธีการทำการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

business-job-interview-concept

1. คุณต้องรู้ก่อนว่าเป้าหมายในการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของคุณคืออะไร

การทำอสังหาริมทรัพย์จะมี 2 รูปแบบ คือ แบบขายขาดและแบบให้เช่า การกำหนดเป้าหมายมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แต่ละแบบจะมีการดำเนินธุรกิจ วิธีการวางแผนการตลาดออนไลน์ และกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ดังนั้นคุณจึงต้องกำหนดเป้าหมายของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้ชัดเจน เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

2. คุณต้องมองให้ออกว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีหลากหลายชนิด แต่ละชนิดมีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน เราจึงต้องมองให้ออกว่าลูกค้าของเราคือกลุ่มไหน เช่น ถ้าคุณกำลังปล่อยเช่าหอพัก กลุ่มเป้าหมายของคุณอาจเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือคนวัยทำงาน ที่พอมีกำลังในการจ่ายค่าเช่าให้กับคุณ ในขณะเดียวกันถ้าอสังหาริมทรัพย์ของคุณเป็นบ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมที่มีบริเวณ กลุ่มเป้าหมายของคุณอาจเป็นคนวัยทำงานที่มีเป้าหมายจะสร้างครอบครัว คุณควรมองกลุ่มเป้าหมายให้สัมพันธ์กับอสังหาริมทรัพย์ที่คุณมี เพื่อการทำการตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ

local_seo_1
offsite_th-6

3. ควรสร้างคอนเทนต์ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย

ในปัจจุบันหลายธุรกิจเดินทางมาถึงทางตัน โดยเฉพาะช่วงที่ Covid – 19 กำลังระบาด ส่งผลทำให้ธุรกิจต่างๆ ต้องเจอกับวิกฤตทางเศรษฐกิจอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในบางบริษัทนั้น กลับมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า ในช่วง Covid – 19 ที่ผ่านมา โดยเน้นไปที่การทำการตลาดออนไลน์ เนื่องจากการระบาดของ Covid – 19 ส่งผลให้วิถีชีวิตของเราเปลี่ยนไป เช่น การใส่หน้ากาก ไม่ไปในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด การติดต่อทางสังคมออนไลน์มีความจำเป็นมากขึ้น ธุรกิจจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับ New normal นี้ อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วย ดังนั้นการตลาดออนไลน์จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นและเป็นเครื่องมือที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน ดังนั้นเราไปดูพร้อมกัน ว่าการทำการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีวิธีการอย่างไร

เครื่องมือที่ช่วยเพิ่มยอดขายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

googlelogo_color_160x56dp

1. Google Ads

ปัจจุบัน Google เป็นเครื่องมือที่คนทั่วโลกใช้ในการค้นหา สิ่งของ และ สถานที่ต่างๆ โดยมีรายงานว่ากว่า 87% ของผู้สนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันนิยม ค้นหาข้อมูลผ่าน Google ดังนั้นการใช้บริการ Google Ads จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการสร้างความสนใจแก่กลุ่มเป้าหมาย โดยใช้ Keyword เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาสินค้าของเรา เช่น คุณต้องการขาย คอนโดหรูและอยู่ใกล้รถไฟฟ้า คุณอาจใช้ keyword คอนโดหรูติดรถไฟฟ้า เป็นต้น

hospitality_08

2. Facebook

การสร้าง Facebook Fanpage เป็นเครื่องมืออีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจในการนำมาใช้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากประเทศไทยมีผู้ใช้ Facebook ทั้งหมด 45 ล้านบัญชี และมักเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์รวมอยู่ด้วย อีกทั้ง Facebook Fanpage ยังมีระบบการจัดการที่ดี โดยลูกค้าสามารถดูข้อมูลโครงการ รูปภาพ คอนเทนต์ต่างๆ รวมไปถึงการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทาง Inbox ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้เราสามารถทำการตลาดออนไลน์โดยใช้ Facebook Ads เพื่อการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของเราโดยตรงได้อีกด้วย

วิธีการทำการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

สรุปแนวทางการพัฒนาการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

การทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน สามารถเติบโตได้หากเรานำการตลาดออนไลน์เข้ามาปรับประยุกต์ใช้ในการทำธุรกิจ ซึ่งถือว่ามีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้การทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประสบความสำเร็จ แต่ถึงอย่างไรการทำการตลาดออนไลน์ก็ต้องมีวิธีการต่างๆที่เข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นการที่เราทราบถึงกลุ่มเป้าหมาย การสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ และดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง รวมไปถึงเครื่องมือทางการตลาดที่เข้ามาช่วยเพิ่มการขาย เช่น Google Ads เป็นทางเลือกที่ดีในการสร้างความสนใจแก่กลุ่มเป้าหมาย โดยใช้ Keyword หรือคำสั้นๆ เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาสินค้า และ Facebook Fanpage ที่มีความน่าสนใจและง่ายต่อการนำมาใช้ประยุกต์ต่อการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน