SEO กับ SEM

11_Laptop_Mockup

SEO กับ SEM แตกต่างกันอย่างไร ? สองความหมายที่หลายคนยังสับสน

Group-332-3

หลายคนที่กำล้งสงสัยว่าการทำ SEO คืออะไร แล้วการทำ SEM คืออะไร แล้วทั้ง 2 อย่างนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร แล้วจุดไหนบ้างที่เหมือนกัน แล้วข้อดีข้อเสียของการใช้กลยุทธ์ทั้ง SEO และ SEM เป็นอย่างไร วันนี้ TBS Marketing เราจะมาบอกทั้ง SEO SEM ว่ามันคืออะไร

SEO คืออะไร SEM คืออะไร

SEO คือ

SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ของการทำ Digital Marketing ที่ทำให้เว็บไซต์ของคุณขึ้นอยู่อันดับต้นๆของหน้า Google โดยเหตุผลที่ต้องเน้นทำ SEO ก็คือ ยิ่งเว็บไซต์ของคุณอยู่อันดับต้นๆ นั่นหมายถึงก็เพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณมากขึ้น ยิ่งเพิ่มโอกาสให้คนรู้จักเว็บไซต์คุณมากขึ้น ยิ่งเพิ่มโอกาสการปิดยอดขายมากขึ้น ซึ่งกลยุทธ์นี้เป็นการปรับเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพด้วยเทคนิค SEO เพื่อให้ Google เข้ามาเก็บข้อมูล และทำการจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณบนหน้า Google เช่น การปรับ Title, ปรับ Description, ปรับโครงสร้างเว็บไซต์ และเทคนิคอื่น ๆ

ทั้งนี้การทำ SEO จะเป็นการปรับเว็บไซต์แบบ Organic ซึ่งการทำ SEO นี้ อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการทำ ขั้นต่ำอย่างน้อย 6 เดือน หรือ 12 เดือน ซึ่งการทำ SEO จะเป็นการปรับเว็บไซต์ที่ส่งผลในระยะยาว หากเว็บคุณขึ้นอันดับต้นๆแล้ว ส่วนใหญ่อันดับจะไม่ตกไปไหน ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและได้ผลระยะยาว
TBS-OS-Cartoon-37-1
Group-409

SEM คือ

SEM ย่อมากจาก Search Engine Marketing เป็นการทำกลยุทธ์การตลาดที่ต้องซื้อโฆษณา จะต้องจ่ายเงินค่าโฆษณาให้กับ Google เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณอยู่อันดับ 1 ในการ Search ทันที หรือเรียกอีกชื่อว่า Paid Search โดยจะจ่ายค่าโฆษณาตามจำนวนครั้งที่ผู้ใช้คลิกโฆษณาเพื่อเข้าชมเว็บไซต์โดยวิธีสังเกตของ SEM จะมีคำว่า AD อยู่หน้าชื่อเว็บไซต์การทำ SEM ถือเป็นช่องทางที่ทำให้สินค้าหรือบริการเป็นที่รู้จัก และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงเป้าหมายมากขึ้น แต่ถ้าคุณไม่ได้ซื้อพื้นที่โฆษณาต่อ อันดับเว็บไซต์ของคุณก็จะหายไป
แต่ทั้งนี้การทำ SEM จะมีข้อเสียตรงที่เมื่อไหร่ที่เราหยุดจ่ายค่าโฆษณา อันดับที่เราซื้อก็จะตกลงมา นั่นแสดงว่าถ้าอยากให้เว็บไซต์อยู่อันดับต้นๆเสมอ เราจำเป็นต้องจ่ายเงินทำโฆษณากับ Google เพื่อทำการซื้อพื้นที่นั่นเอง

SEO และ SEM การตลาดบน Google แบบครบวงจร

แท้จริงแล้วการทำ SEO และ SEM จะเป็นการตลาดออนไลน์ที่มีวัตถุประสงค์เดียวกันก็คือ ทำให้เว็บไซต์ของคุณอยู่อันดับต้นของหน้า Google
แต่ทั้ง 2 วิธีจะมีความแตกต่างกันตรงที่รูปแบบ ซึ่ง SEO จะเน้นเรื่อง Organic แต่เมื่อทำแล้วอันดับจะอยู่กับเราเป็นระยะเวลานาน แต่ถ้าเป็น SEM จะเป็นการทำเว็บไซต์ให้ขึ้นอันดับต้นในทันที แบบรวดเร็ว แต่เมื่อไหร่ที่คุณหยุดจ่ายเงินอันดับก็ตกนั่นเอง
ดังนั้นการที่ธุรกิจของคุณจะเริ่มทำ SEO หรือ SEM จะเลือกเริ่มทำอะไรกลยุทธ์แบบไหนก่อน ถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บไซต์ใหม่ หรือกำลังเปิดตัวสินค้าใหม่ ยังไม่มีใครรู้จักคุณ ยังไม่รู้ว่าคุณขายสินค้าอะไร แนะนำว่าให้ทำ SEO และ SEM ควบคู่ไปเลย เพราะเนื่องจากการทำ SEO จะต้องใช้ระยะเวลาในการทำ กว่าเว็บไซต์จะขึ้นอันดับ อย่างที่บอกได้ประมาณ 6-12 เดือน หากคุณไม่อยากรอนานขนาดนี้ ต้องการที่จะเพิ่มยอดขายตั้งแต่เดือนแรก แนะนำให้ทำ SEM เอาไว้ เพื่อเป็นการซื้อพื้นที่บน Google Search และระหว่างนี้ก็ทำ SEO ควบคู่ไปด้วย
และเมื่อไหร่ที่ SEO เริ่มเห็นผล เว็บไซต์ของคุณเริ่มอยู่หน้าแรกของการ Search นั่นแหละถึงคุณจะเริ่มมาทุ่มเทกับการทำ SEO และอาจจะลดความสำคัญของการทำ SEM ลง เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำ Digital Marketing และนำงบไปโฟกัสส่วนอื่น ๆของธุรกิจแทน
ดังนั้นหากคุณยังสงสัยว่าจะเริ่มทำกลยุทธ์แบบไหนดี หรือถ้าปกติคุณทำ SEM อยู่แล้ว แต่อยากปรับเว็บไซต์ให้ถูกหลัก SEO ให้ดีกว่าที่เป็นก็สามารถเข้ามาติดต่อที่ TBS Marketing ของเราได้ เรามีบริการรับทำ SEO แบบครบวงจรให้กับคุณ รับรองว่าเว็บไซต์ของคุณจะอยู่อันดับต้นๆของการ Search แน่นอน
TBS-OS-Cartoon-70