บล็อกและโพสต์ การตลาดดิจิทัล

5 วิธีสำหรับปรับปรุงอัตราการคลิกโดยเฉลี่ยของคุณ

โครงเรื่อง
    Add a header to begin generating the table of contents
    cover-banner3

    อัตราการคลิกโดยเฉลี่ย (CTR) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดเมื่อพูดถึงการตลาดออนไลน์ CTR ที่สูงหมายความว่ามีคนคลิกลิงก์ของคุณมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มสนใจสินค้าและเกิดการกระทำตามที่กำหนดไว้ในตอนแรก (Conversion) เพิ่มขึ้น

    อัตราการคลิกโดยเฉลี่ยคืออะไร?

    อัตราการคลิกโดยเฉลี่ย (CTR) เป็นการวัดจำนวนครั้งที่ผู้ใช้คลิกลิงก์หรือโฆษณา โดยปกติจะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ ตัวอย่างเช่น หากมีคน 100 คนเห็นโฆษณาและคลิกที่โฆษณา CTR จะเป็น 100% อัตราการคลิกโดยเฉลี่ยสามารถใช้เพื่อประเมินประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาหรือเพื่อกำหนดปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ หากมี CTR ที่สูงแสดงว่าผู้ใช้สนใจเนื้อหา ในขณะที่ CTR ต่ำแสดงว่าผู้ใช้ไม่สนใจ อัตราการคลิกโดยเฉลี่ยยังคงเป็นวิธีที่ดีในการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของโฆษณาหรือเว็บไซต์ต่างๆ ได้อีกด้วย

    เพราะอะไรจำนวน CTR ที่สูงถึงมีความสำคัญ

    CTR หรืออัตราการคลิกโดยเฉลี่ยเป็นการวัดว่าคนที่เห็นจากตัวURLได้กดคลิกเข้าไปบ่อยขนาดไหน ซึ่ง CTR มีความสำคัญในการทำให้เข้าใจว่าเนื้อหานั้นทำงานได้ดีเพียงใด นอกจากนั้น CTR ที่สูงหมายความว่าผู้คนสนใจในเนื้อหาของหน้านั้นๆ ของเว็ปไซต์คุณและมีแนวโน้มที่จะดูรายละเอียดเพิ่มเติมและเพิ่มโอกาสในการติดต่อและสั่งซื้อได้ ในทางกลับกัน ตัวเลข CTR ที่ต่ำอาจหมายความว่าเนื้อหาคำเชิญชวนใน URL นั้นๆ ไม่สัมพันธ์ต่อผู้ที่กำลังค้นหาข้อมูลอยู่ หรือไม่ได้รับการออกแบบที่ดี ดังนั้น CTR จึงเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำหรับการวัดความสำเร็จของการเขียน Meta Title and Description ในแต่ละหน้า URL ของธุรกิจคุณ

    5 วิธีในการปรับปรุง CTR ของคุณ:

    CTR หรืออัตราการคลิกโดยเฉลี่ย เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญสำหรับธุรกิจออนไลน์ทุกรูปแบบ ซึ่ง CTR ที่สูงหมายความว่าลูกค้าของคุณมีส่วนร่วมกับเนื้อหาของคุณและมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ อย่างไรก็ตามหาก CTR ของคุณไม่ตรงตามความต้องการก็ยังมีหลายวิธีที่คุณสามารถปรับปรุง CTR ของคุณได้ ดังนี้:

    1. ทำให้หัวข้อของคุณเป็นที่ดึงดูด – หัวข้อของคุณเป็นสิ่งแรกที่ผู้คนจะเห็นเมื่อเข้าชมเนื้อหาของคุณ กล่าวคือหัวข้อที่มีความน่าสนใจจะทำให้ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้ 

    2. ใช้ภาพที่สะดุดตา – เนื่องจากคนเป็นสิ่งมีชีวิตที่จำภาพได้ดี ดังนั้นการใช้รูปภาพในเนื้อหาของคุณจะช่วยดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้ดี เลือกภาพที่สว่างและมีสีสัน และเกี่ยวข้องกับหัวข้อ

    3. ใช้คำกระตุ้นและดึงดูดการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ – คำกระตุ้นหรือโน้มน้าวการตัดสินใจที่ชัดเจนจะทำให้ผู้ชมที่คลิกไปยังเว็บไซต์ของคุณหรือทำการซื้อหรือใช้บริการของคุณ แนะนำว่าควรใช้ภาษาที่กระตือรือร้นและทำให้มันชัดเจนว่าคุณต้องการให้คนอื่นทำอะไร

    4. เขียนคำอธิบายที่น่าสนใจ – คำอธิบายบทความหรือผลิตภัณฑ์ของคุณเปรียบเสมือนอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งซึ่งคุณสามารถใช้เพื่อชักชวนให้ผู้คนคลิกเข้าไป จึงควรใช้ภาษาที่สร้างความอิมแพค และต้องสื่อชัดเจนว่าผู้คนจะได้ประโยชน์อะไรจากการคลิกเข้าไปในเว็บไซต์ของคุณ

    5. ทดสอบ ทดสอบ ทดสอบ – เพราะ CTR ไม่ใช่ตัวเลขคงที่ จึงต้องทดสอบอย่างสม่ำเสมอ

    โดยรวมแล้ว CTR ที่สูงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจออนไลน์ทุกประเภท เนื่องจากมันเป็นการบ่งชี้ถึงการมีส่วนร่วมจากลูกค้าและแนวโน้มที่จะเกิด Conversion มากขึ้น คุณสามารถปรับปรุง CTR ได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การใช้ภาพที่สะดุดตา การเขียนคำอธิบายที่น่าสนใจ และการใช้คำกระตุ้นการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ แต่ท้ายที่สุดแล้วการทดสอบวิธีการต่างๆที่กล่าวมา เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการดูว่าวิธีใดเหมาะกับธุรกิจของคุณ