เป็นข่าวที่น่าสนใจอย่างมาก เมื่อผู้บริหารใหญ่ของ Google ได้กล่าวในงาน Fortune Brainstorm Tech 2022 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 11-13 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นสุดฮิตอย่าง TikTok นั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่กับ Youtube ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับอัปโหลดวิดีโออย่างเป็นทางการของ Google แต่ยังส่งผลกระทบไปถึงการบริการหลัก ๆ ของ Google (Core Google services) อย่าง Google Search และ Google Map อีกด้วย เกิดอะไรขึ้นมาดูกัน!
คนรุ่นใหม่กับการใช้ TikTok และ Instagram ค้นหาสิ่งที่ต้องการแทน Google
Prabhakar Raghavan ผู้ทำหน้าที่รองประธานอาวุโสฝ่าย Google’s Knowledge & Information พูดถึงประเด็นนี้ในหัวข้อ อนาคตของผลิตภัณฑ์ Google และการนำ AI มาปรับใช้
โดยนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการวิวัฒนาการของการค้นหาที่ว่า ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตยุคใหม่ หรือ Generation Z หรือเหล่าผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตที่มีอายุประมาณ 18-24 ปีเหล่านี้ หันไปใช้แอพพลิเคชั่นอย่าง Instagram หรือ TikTok สำหรับการค้นหาแทนการใช้ Google Search และ Google Maps มากขึ้น
“จากการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราได้พบว่าเหล่าผู้ใช้อินเตอร์เน็ตรายใหม่ไม่ได้มีความคาดหวังและ mindset แบบที่เราคุ้นเคย”
และยังกล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่าคำถามของพวกเขานั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิง เพราะในการค้นหาข้อมูลนั้นนั้น พวกเขาจะไม่พิมพ์ keyword ลงไปแบบโต้ง ๆ แต่จะใช้วิธีการสืบค้นไปเรือย ๆ เพื่อหาข้อมูลใหม่ ๆ และดื่มด่ำไปกับข้อมูลเหล่านั้น
“ในการศึกษาของเราพบว่า 40% ของคนรุ่นใหม่ เมื่อพวกเขาต้องการหาร้านอาหารสำหรับมื้อเที่ยง พวกเขาจะไม่ไปที่ Google Maps และ Google Search แต่จะหันไปใช้ Tiktok หรือ Instagram แทน”
ตัวเลขที่ได้ยินอาจฟังดูน่าตกใจ แต่ยืนยันได้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ เพราะข้อมูลเหล่านี้ได้มาจากการวิจัยในกลุ่มผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตวัย 18-24 ปีในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ Mr.Raghavan ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่นั้นให้ความสนใจกับการค้นหาในรูปแบบ “visually rich forms” หรือการค้นหาที่ให้ผลลัพธ์มากกว่าแค่สถานที่สำหรับรับประทานอาหาร ซึ่งในที่นี้อาจหมายถึงรีวิวของรสชาติอาหาร มุมถ่ายรูปเก๋ ๆ หรือประวัติความเป็นมาของร้านเพื่อประกอบการตัดสินใจ
แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจอะไร เพราะทาง Google เองก็ได้มีการพัฒนาฟีเจอร์และการแสดงผลบนหน้าค้นหาให้ตอบรับกับความต้องการเหล่านี้มากขึ้น อย่างเช่น การพัฒนาโหมด 3D บน Google Maps เพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสประสบการณ์ที่สมจริงมากขึ้นในการค้นหาสถานที่รวมถึงพัฒนาไปจนถึงขั้นที่สามารถใช้งานผ่านแว่น AR ได้ รวมถึงพัฒนาการจัดอับวิดีโอบน Tiktok บนหน้า SERPs ของ Google ด้วย เพื่อให้ผู้ใช้ได้พบกับผลลัพธ์ที่ตรงใจที่สุดเมื่อค้นหาโดยใช้เครื่องมือ Google Search
ดังนั้นแล้วหากให้สรุปในตอนนี้ ความสำคัญของการใช้ Google ก็ไม่ได้มีความสำคัญน้อยลงแม้แต่น้อย เพียงแต่มีแพลตฟอร์มอื่นที่มีบทบาทมากขึ้นแต่ก็เฉพาะกับผู้ใช้บางกลุ่มเท่านั้น เพราะเหล่าผู้ใช้ที่มีอายุมากกว่านี้อาจนึกภาพไม่ออกด้วยซ้ำว่าการทำการค้นหาข้อมูลและสถานที่บน TikTok และ Instagram นั้นสามารถทำได้อย่างไร
ขอขอบคุณที่มา: https://techcrunch.com/2022/07/12/google-exec-suggests-instagram-and-tiktok-are-eating-into-googles-core-products-search-and-maps/
เรื่องนี้ส่งผลต่อการทำการตลาดออนไลน์อย่างไร
แน่นอนว่าความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไป ย่อมส่งผลโดยตรงต่อการทำกำารตลาดแน่นอน เพราะวัตถุประสงค์หลักของการทำการตลาดออนไลน์ก็เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มลูกค้าที่สนใจรับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของแบรนด์หรือธุรกิจของเรา สถิติหรือตัวเลขเหล่านี้ทำให้คุณทำการตลาดบนโลกอินเตอร์เน็ตได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น หากธุรกิจของคุณมุ่งเน้นการทำการค้าขายกับกลุ่มลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุประมาณราว ๆ 18-24 ปี การตลาดของคุณอาจมุ่งเน้นไปที่การทำการตลาดแบบ Social Media Marketing หรือ SMM ทำให้เกิดการสร้างยอดขายและกำไรที่มากขึ้นอีกด้วย นอกจากการศึกษาปัจจัยอื่นร่วมด้วยอย่างความชอบที่คนในช่วงอายุนี้ให้ความสนใจจะทำให้เราสามารถสร้างคอนเทนต์คุณภาพที่เจาะตลาดของคนกลุ่มนี้ได้ตรงจุดมากขึ้นตามไปด้วย
แต่อย่างไรก็ตามการทำการตลาดที่ครอบคลุมก็ย่อมสร้างโอกาสให้กับความสำเร็จให้กับธุรกิจของคุณได้มากกว่า โดยเฉพาะบนโลกอินเตอร์เน็ตที่ไร้พรมแดน ไม่ว่าจะเป็นการทำ SEO (Search Engines Optimization) การทำโฆษณาบน Google Ads และการทำ SMM (Social Media Marketing) ล้วนแต่เป็นการสร้าง brand awareness ให้กับสินค้าและบริการของคุณแก่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต